1. ความเป็นมา
กรมการพัฒนาชุมชน
โดยสถาบันการพัฒนาชุมชน ได้มอบหมายให้ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี
ดำเนินกิจกรรมโครงการพลังเครือข่ายสัมมาชีพเคลื่อนที่ :
CDD MOBILE เพื่อส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้
และการมีส่วนร่วมของประชาชนเป็นเครื่องมือในการใช้พลังชุมชนในการพัฒนาหรือแก้ไขปัญหาชุมชน
เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากของชุมชนให้มีความมั่นคง
และชุมชนมีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน โดยวิทยากรผู้นำสัมมาชีพ
ที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี เป็นผู้ขับเคลื่อน
โดยมีเจ้าหน้าที่ของศูนย์ฯ เป็นพี่เลี้ยง
2. ขั้นตอนวิธีการ
2.1
จัดประชุมชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบ
เข้าใจถึงวัตถุประสงค์ของโครงการฯ กระบวนการ/
วิธีการ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ
วิธีการ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการฯ
2.2
จัดทำแผนการดำเนินงาน ตามกิจกรรมทั้ง
5 กิจกรรม
2.3 รวบรวมข้อมูลของจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบที่ส่งแผนความต้องการฝึกอบรมของกลุ่ม
เข้ามา จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น เลย อุดรธานี หนองคาย
หนองบัวลำภู สกลนคร บึงกาฬ
เข้ามา จำนวน 8 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ ขอนแก่น เลย อุดรธานี หนองคาย
หนองบัวลำภู สกลนคร บึงกาฬ
2.4
ดำเนินการคัดเลือกพื้นที่ในการออกให้บริการการตามโครงการฯ
โดยใช้มติความเห็นชอบ
จากที่ประชุมเป็นผู้คัดเลือก
จากที่ประชุมเป็นผู้คัดเลือก
2.5
คัดเลือกวิทยากรสัมมาชีพที่ผ่านการฝึกอบรมจากศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี
เพื่อ
เป็นทีมให้บริการความรู้ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
เป็นทีมให้บริการความรู้ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
2.6
จัดประชุมเพื่อร่วมกันจัดทำหลักสูตร
2.7
ดำเนินการฝึกอบรมให้ความรู้แก่กลุ่มเป้าหมายในพื้นที่ที่ได้รับคัดเลือก
2.8
ติดตามผลการดำเนินงานและให้คำแนะนำ
2.9
ติดตามประเมินผล
3. ผลการดำเนินงาน
5 กิจกรรม
กิจกรรมที่ 1
เตรียมความพร้อมชุมชน (จังหวัดดำเนินการ)
กิจกรรมที่ 2
สร้างองค์ความรู้และจัดทำแผน ดำเนินการระหว่างวันที่ 8-9 กุมภาพันธ์ 2561 ณ
ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี กลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย
เจ้าหน้าที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี และวิทยากรสัมมาชีพ จาก 4 จังหวัด
จำนวน 10 คน โดยมีกระบวนการขั้นตอน ดังนี้
-
เชิญวิทยากรผู้นำสัมมาชีพที่มีความรู้เรื่องการทอผ้า
การย้อมผ้า จากจังหวัดในพื้นที่เขต
บริการของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนคร หนองคาย
ขอนแก่น รวม 4 จังหวัด จำนวน 10 คน
บริการของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี ได้แก่ จังหวัดกาฬสินธุ์ สกลนคร หนองคาย
ขอนแก่น รวม 4 จังหวัด จำนวน 10 คน
-
จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ
ณ ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี จำนวน 2 วัน
-
ดำเนินการสกัดองค์ความรู้จากวิทยากรผู้นำสัมมาชีพ
-
ร่วมกันจัดทำแผนการฝึกอบรมให้ความรู้ตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายผลลัพธ์ของ
กิจกรรมที่ 2 คือ 1. หลักสูตรการย้อมฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ 2. วิทยากรสัมมาชีพ 5 คน 3. ตารางฝึก
อบรม 4. แผนการดำเนินงาน 5. เอกสารประกอบการฝึกอบรม
กิจกรรมที่ 2 คือ 1. หลักสูตรการย้อมฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ 2. วิทยากรสัมมาชีพ 5 คน 3. ตารางฝึก
อบรม 4. แผนการดำเนินงาน 5. เอกสารประกอบการฝึกอบรม
กิจกรรมที่ 3
ใช้องค์ความรู้และสร้างพลังความร่วมมือ ดำเนินการระหว่างวันที่ 26-27 กุมภาพันธ์
2561 ณ ศูนย์เรียนรู้ชุมชน บ้านคำดอกไม้ ม.7 ต.นายูง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี
ดำเนินการดังนี้
-
จัดกิจกรรมฝึกอบรมให้ความรู้เรื่องทฤษฎีการสกัดสี ผสมสี
ย้อมสี และหมักโคลน
ผ้าฝ้าย
ผ้าฝ้าย
-
ฝึกปฏิบัติ
กิจกรรมที่ 4
เติมเต็มองค์ความรู้ ดำเนินการระหว่างวันที่ 4 เมษายน 2561 ณ ศูนย์เรียนรู้ชุมชน
บ้านคำดอกไม้ ม.7 ต.นายูง อ.ศรีธาตุ จ.อุดรธานี ดำเนินการดังนี้
วิทยากรผู้นำสัมมาชีพ
ออกหน่วยบริการเคลื่อนที่เพื่อติดตามผลความก้าวหน้าโดยการจัดเวทีชุมชนเพื่อนำเสนอผลความก้าวหน้า
โดยผู้ที่ได้รับการฝึกอบรมได้นำผลงานมานำเสนอการย้อมสีฝ้ายด้วยสีธรรมชาติ ปรากฏผล ดังนี้
ผลงานก่อนฝึกอบรม
ผ้าพันคอจะเป็นสีที่ย้อมจากสีเคมี
ระหว่างฝึกอบรม
วิทยากรบรรยายทฤษฎีของสีจากธรรมชาติและความรู้เรื่องตัวแปร
ใบมะม่วง
ขมิ้นสด
วิทยากรเน้นการใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่มีอยู่ในพื้นถิ่น
แก่นฝาง
สีสกัดเย็นจากขมิ้น
สีสกัดเย็นจากใบมะม่วง
ล้างเส้นฝ้ายและนำไปต้มไล่ไขมันเพื่อให้สีติดดี
ย้อมและนวดให้สีเข้าไปในเส้นฝ้ายหมักไว้
6 ชม.
ฝ้ายที่ย้อมด้วยสีจากใบมะม่วง
ฝ้ายที่ย้อมด้วยสีขมิ้น
ฝ้ายที่ย้อมด้วยสีจากแก่นฝาง
สกัดร้อน
เคล็ดลับ ระหว่างที่ทำการย้อมสีให้นวดหรือขยำให้สีเข้าไปใสเส้นฝ้ายอย่างทั่วถึงและหมักทิ้งไว้อย่างน้อย
6 ชม. ถึงนำมาซักล้างตากให้แห้ง
หรือหากต้องการสีที่เข้มขึ้นให้ย้อมเหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่ง
หลังจากได้รับการฝึกอบรม
หลังจากที่วิทยากรสัมมาชีพได้ให้ความรู้ในการย้อมสีธรรมชาติ
โดยเน้นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่ในท้องถิ่นให้เกิดประโยชน์
แล้วได้มาติดตามผลการดำเนินงานซึ่งผู้เข้ารับการฝึกอบรมได้ผลิตผ้าพันคอเพื่อเตรียมจำหน่ายในตลาดประชารัฐ
-
เติมเต็มองค์ความรู้ให้แก่ชุมชนเป้าหมาย
การประเมินผลงานของผู้เข้าอบรม
|
สิ่งที่ควรปรับปรุงเพิ่มเติม
|
1.
รูปแบบผลิตภัณฑ์สวยงามแต่ยังไม่ละเอียด
2.
เนื้อผ้าทอหนาเกินไปไม่เหมาะกับอากาศเมืองร้อน
3.
ความยาวของผ้าคลุมไหล่ยังไม่ได้มาตรฐาน
4.
สีของเส้นฝ้ายยังสีอ่อนเกินไป
5.
ยังไม่มีอัตลักษณ์ของผ้า
6.
ยังไม่มีความรู้เรื่องการจับคู่สี
|
1.
การมาร์คจุดสิ้นสุดเพื่อต่อลายผ้าควรมาร์คด้วยเส้นด้ายภายนอก
เพื่อไม่ให้ผ้าเกิดตำหนิ
2.
ถ้าต้องการสีที่สดใส
หรือเข้มขึ้นให้ย้อม 2-3 ครั้ง
3.
ความยาวมาตรฐานของผ้าคลุมไหล่ อยู่ที่ 180-250 ซม.
4.
การทอผ้าควรใช้เครื่องทอขนาด 6 ฟืม
และควรใช้แบบ 2 เขา เพื่อป้องการการทอลายผิดพลาด
5.
การทอผ้าบางจะทำให้ผ้าไม่แข็งมีความพลิ้ว
เหมาะกับสภาพอากาศของประเทศไทย
6.
ให้ศึกษาเรื่องทฤษฎีการจับคู่สีเพิ่มเติมเพื่อสร้างผลงานที่มีสีสันสวยงาม
เป็นที่นิยมของตลาดปัจจุบัน
|
สิ่งที่วิทยากรสัมมาชีพได้แนะนำเพิ่มเติมคือการสร้างสัญลักษณ์ของผ้าทอบ้านคำดอกไม้
ให้มีสัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าเป็นผ้าที่ผลิตจากบ้านคำดอกไม้ ซึ่งมีอยู่ 3 วิธี คือ
1. การเพ้นท์ด้วยสีจากธรรมชาติ 2. การปักลาย 3. การทอลาย ซึ่งวิทยากรสัมมาชีพ
ได้สาธิตการเพ้นท์ผ้าลายนาคาจากสีธรรมชาติ ซึ่งเป็นลายเอกลักษณ์ของบ้านดุง เพื่อเป็นตัวอย่างให้ผู้อบรมเห็นความสำคัญของการสร้างลวดลาย
จึงให้ข้อเสนอแนะในการสร้างลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ของตนเอง